ที่เที่ยวเยอรมัน


 

เที่ยวมิวนิค Munich เยอรมัน

มิวนิค เมืองที่แสนทรงเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนามากมาย และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมันอีกด้วยค่า

เที่ยวปราสาทนอยชวานชไตน์ มิวนิค (Neuschwansten Castle)

ปราสาทนอยชวานชไตน์ Neuschwanstein ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย มิวนิค ประเทศเยอรมนี สร้างในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ เนื่องจากหญิงปุ๊กไปเที่ยวเยอรมัน และยุโรปตะวันออกช่วงปีใหม่ ทำให้มีหิมะฟรุ้งฟริ้ง เมืองทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งทริป

ช่างโรแมนติคดีจริงๆ แอบมโนว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเอลซ่า ในหนังเรื่อง Frozen ด้วย ฮ่าๆๆ ลั้ลลามากมาย แฮปปี้ๆๆ เชิญชมภาพสวยๆ กันเลยดีกว่าค่า

พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิค (Residenz Munchen)

ราชวังใหญ่ใจกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่มากที่สุดของประเทศเยอรมนีค่า เคยเป็นที่ประทับและทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี! มีการตกแต่งต่อเติมมาหลายยุคหลายสมัยเพื่อให้เหมาะสมกับรสนิยมของผู้ปกครองและกษัตริย์แต่ละพระองค์ ใช้เป็นที่เก็บสะสมงานทางศิลปะและเป็นคลังเก็บสมบัติอีกด้วยค่ะ โดยได้เปิดให้เข้าชมแก่บุคคลทั่วไปชนิดเต็มอิ่มไม่มีกั๊ก เมื่อปี ค.ศ. 1920

พระราชวังแห่งนี้สวยงามยิ่งใหญ่อลังการมากๆ มีห้องทั้งหมดกว่า 130 ห้อง แต่ละห้องแสดงถึงความมั่งคั่งและความสวยงามหรูหราแตกต่างกันไป มีภาพวาดอันสวยงามที่แฝงวิถีชีวิตของชาวบาวาเรียไว้มากมาย และยังมีสมบัติต่างๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเคลือบ เครื่องเงิน และภาพเขียนทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะประวัติความเป็นมาของพระเยซู และห้องไฮไลท์ที่ควรเยี่ยมชมก็คือ  Antiquarium Hall of Antiquities ห้องโถงสไตล์เรอเนสซองส์ที่มีความสวยงามมากกกกค่ะ ต้องชมจริงๆ

เที่ยวพระราชวังนิมเฟนบูร์ก (Nymphenburg Palace)

พระราชวังนิมเฟนบูร์ก Nymphenburg Palace ตั้งอยู่ชานเมืองมิวนิค สไตล์บารอค ใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของสมาชิกราชวงศ์วิทเทลส์บาค ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม ข้างในมีการแสดงภาพวาด งานศิลป์ และเฟอร์นิเจอร์ให้ชมมากมาย และยังมีสวนสวยๆ ที่เต็มไปด้วยฝูงหงส์และเป็ดอยู่ด้านหน้าค่ะ

 

เที่ยวโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ Rothenburg ob der Tauber เยอรมัน

เที่ยวโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ เยอรมัน เมืองน่ารักดุจเทพนิยาย แต่ชื่อยาวเหยีดเกือบเมตรกว่ากันบ้างค่ะ 555 เราขออนุญาตเรียกสั้นๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่า “โรเธนเบิร์ก” เมืองนี้เป็นโบราณจากยุคกลางแห่งแคว้นบาวาเรีย ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบมาถึงยุคปัจจุบัน ด้วยป้อมกำแพงเมืองสภาพสมบูรณ์ที่ล้อมรอบเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเรอเนสซองส์ รวมไปถึงบ้านเรือนที่ถูกสร้างในรูปแบบเยอรมันขนานแท้เอาไว้ตั้งแต่โบราณ

 

เที่ยวไฮเดลเบิร์ก Heidelberg เยอรมนี

ที่นี่เป็นเมืองเก่าแก่อายุกว่าพันปีที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในเยอรมนี ซึ่งจริงหรือเปล่านั้นคงต้องมาพิสูจน์กันเองค่ะ เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นนะจ๊ะ ส่วนเราเองหากถามว่าชอบเมืองนี้ไหม ก็คงต้องบอกว่าที่สุดค่ะ เพราะจุดเด่นของไฮเดลเบิร์กคือเสน่ห์ของฉากหลังที่เป็นเมืองเก่า ทั้งปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี มหาวิทยาลัยก็ดูเก่าแก่น่าศึกษา แหล่งช้อปปิ้งที่ผสมผสานความเก่าและความทันสมัยอย่างลงตัว แต่น่าแปลกค่ะที่เมืองนี้กลับเต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวามากๆ ค่ะ ไม่อึมทึมขรึมเศร้าแต่อย่างใดเลย มีความชิลและคึกคักดี

เที่ยวปราสาทไฮเดลเบิร์ก Heidelberg Castle

ว่ากันว่าหากมาถึงเมืองไฮเดลเบิร์ก The must ที่พลาดไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงก็คือ ปราสาทที่มีชื่อเดียวกับเมืองนั่นเองค่ะ มีความงาม เห็นแล้วอยากจะกรี๊ดดดดดดสิบตลบ เหมือนปราสาทในเทพนิยายเลยคร่าาาา อยากจะนั่งรถม้าเข้าวังไปพร้อมกับเจ้าชายยยยเลย

 

เที่ยวเขตเมืองเก่า Old Town

ที่เมืองไฮเดลเบิร์ก ตัวเมืองจะถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือ ตัวเมืองใหม่และตัวเมืองเก่า ซึ่งส่วนที่สวยงามคลาสสิกและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองนี้ก็คือในส่วนของตัวเมืองเก่านี่เอง และเมืองเก่านี้ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทไฮเดลเบิร์กด้วย

ตอนแรกที่เราผ่านเข้ามาในย่านเมืองเก่า สิ่งที่สะดุดตาเลยก็คือบ้านเรือนที่มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าไม่ได้สร้างมาใหม่แน่ๆ ที่ตั้งเรียงรายขนานไปกับแม่น้ำเนคคาร์ เรามาเดินเที่ยวภายในเมืองเก่ากัน

 

เที่ยวแบมเบิร์ก Bamberg เยอรมัน

แบมเบิร์กคือหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในรัฐบาวาเรีย เยอรมนี ด้วยเป็นเมืองแห่งศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จนทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1993 จึงไม่แปลกเลยค่ะ หากที่นี่จะกลายเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศเยอรมนี ที่หากใครมาประเทศแห่งนี้ก็ต้องมาเยือนทุกครั้งไป

เที่ยวศาลาว่าการเมืองเก่า (Altes Rathaus)

ศาลากลางหลังเก่า Altes Rathaus ตั้งอยู่กลางเมืองแบมเบิร์กบนสะพาน Obere Brücke สร้างคล่อมแม่น้ำเร็กนิทซ์ ซึ่งปัจจุบันที่นี่ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ Sammlung Ludwig Collection Bamberg ไปแล้ว ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์คอลเลกชันพอร์ซเลนหรือพิพิธภัณฑ์เครื่องกระเบื้องนั่นเองค่ะ

โดยภายในจะมีทั้งหมด 2 ชั้น มีคำอธิบายภาษาอังกฤษอย่างละเอียดถึงความแตกต่างของการทำเครื่องกระเบื้องในแต่ละยุคแต่ละสมัย ซึ่งคนที่ชื่นชอบงานศิลปะพวกเครื่องกระเบื้องไม่ควรพลาดค่ะ โดยต้องเสียค่าเข้าชมเป็นเงิน 4.5 ยูโร

เที่ยวมหาวิหารบัมแบร์กเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ (Bamberger Dom St. Peter and St.Georg)

มหาวิหารบัมแบร์ก หนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อมากที่สุดของเมือง ซึ่งก่อตั้งโดยจักรพรรดิเฮนรีที่สองโดยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ตอนปลายและศิลปะแบบโกธิค โดยภายในประกอบไปด้วยหอทั้งสองด้านของตัวตึกจำนวน 4 หอ นอกจากนั้นข้างๆ ตัววิหารยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์พิพิธภัณฑ์จัดแสดงของมีค่าทางศาสนาด้วยค่ะ

ซึ่งใครที่อยากเข้าไปชมก็สามารถเข้าไปชมได้ฟรีค่ะ ใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็ชมครบแล้วเพราะตัวพิพิธภัณฑ์ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ข้างในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ ส่วนตัวมหาวิหารนี่ถ่ายรูปได้ตามสบายเลย แต่จะเปิดให้เข้าชมถึงแค่หกโมงเย็นเท่านั้นนะคะ ดังนั้นต้องรีบๆ ไปก่อนไปเที่ยวที่อื่นจะดีที่สุดค่ะ

 

เที่ยวเบอร์ลิน Berlin เยอรมัน

เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศค่ะ ซึ่งที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง วัฒนธรรม และการคมนาคมก็ตาม ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยว ที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าที่ไหนๆ ในโลก เพราะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนติด 1 ใน 5 ของทวีปเลยทีเดียว นั่นก็เพราะเบอร์ลินนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ที่ล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากมายค่ะ รวมไปถึงงานสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย เรียกว่าเป็นเมืองที่ชวนให้ละลานตาละลานใจที่สุดเลยล่ะค่ะ

เที่ยวกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall)

จุดท่องเที่ยวแห่งแรกที่เราได้ไปชมในเขตกรุงเบอร์ลินนั้น ได้แก่ อนุสรณ์กำแพงเบอร์ลิน สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในพื้นที่ของโบสถ์เก่าแก่อย่าง Mitte ซึ่งจะปิดทำการในทุกๆ วันจันทร์นะคะ

ซึ่งที่นี่ไม่เพียงแต่จะเป็นเขตอนุรักษ์พื้นที่กำแพงบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงหอสังเกตการณ์ ที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองได้ รวมไปถึงการเดินชมโบสถ์ใหม่ที่สร้างขึ้นแทนโบสถ์เก่าอย่าง Chapel of Reconciliation ส่วนถ้าใครอยากเดินชมรอบๆ กำแพงเมือง และอยากทราบประวัติของกำแพงในแบบที่ลึกซึ้ง ก็สามารถซื้อทัวร์เสียงภาษาอังกฤษได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆ ได้ในราคาที่ไม่แพงเลยค่ะ

เที่ยวประตูบรันเดนบูร์ก (Brandenburg)

เราย้ายมายังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่สองอย่างประตูบรันเดนบูร์ก อีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองเบอร์ลิน เป็นสัญลักษณ์ของการรวมชาติเยอรมัน มีการจัดงานและพิธีรำลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ รวมทั้งการเฉลิมฉลองอยู่ตลอด ทั้งปีใหม่ หรือเทศกาลเชียร์ฟุตบอล ตั้งอยู่ระหว่างอาคาร Reichstag และ Holocaust Memorial

ซึ่งลักษณะของประตูบรันเดนบูร์กจะเป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่สร้างในสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก โดยจำลองแบบมาจากวิหาร Acropolis ในเอเธนส์ เพื่อใช้เป็นทางเข้าสู่ Unter den Linden ซึ่งเป็นถนนที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลินค่ะ จุดนี้นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นและถ่ายรูปกันเยอมาก เพราะไม่เพียงแค่ความสวยของประตูเท่านั้นนะคะ ที่ดึงดูดใจ แต่เพราะว่าประตูบรันเดนบรูกส์นั้นตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Friedrichstrasse ที่ได้ชื่อว่าเป็นถนนแห่งการช้อปปิ้งของเบอร์ลินนั่นเองค่ะ คือเที่ยวเสร็จก็ไปเดินช้อปปิ้งและหาอาหารอร่อยๆ กินได้เลยค่ะ

เที่ยวมหาวิหารเบอร์ลิน (Berliner Dom)

มหาวิหารเบอร์ลิน เป็นโบสถ์ในนิกายโปรเตสแตนท์ที่ถือว่าหรูหราที่สุด โดดเด่นด้วยยอดโดม 5 ยอด เราถ่ายรูปกันอยู่แค่ด้านนอกค่า

เที่ยวพิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน (Pergamon Museum)

พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอน เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งสุดท้ายในเกาะพิพิธภัณฑ์ หรือ Museum Island ซึ่งตั้งอยู่ที่จุดศูนย์กลางของกรุงเบอร์ลินบนแม่น้ำสปรี ซึ่งเป็นเกาะที่มีความสำคัญเต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญระดับโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกเมื่อปี 1999

พิพิธภัณฑ์เพอร์กามอนได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศเยอรมนี โดยตั้งชื่อตาม แท่นบูชาเพอร์กามอน บูชาเทพเจ้าซุส สมบัติอันล้ำค่า อายุราว 180 ปีก่อนคริสตกาลที่พังทลายลง และถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวเยอรมัน จากเมืองเฮลเลนิกโบราณแถบเอเซียไมเนอร์ หรือตุรกีตะวันตกในปัจจุบัน นักโบราณคดีได้ขนชิ้นส่วนหน้า และชิ้นส่วนภาพสลักมาประกอบติดตั้งไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ โดยใช้เวลาสร้างนานถึง 20 ปี

นอกจากนี้ข้างในยังมีการจัดแสดงทั้งสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมัน ศิลปะแบบอิสลามจากตะวันออกกลาง อิหร่าน จอร์แดน เปอร์เซีย รวมไปถึงของโบราณจากซีเรีย เมโสโปเตเมีย อัสซีเรีย เป็นต้น เรียกว่ามาที่นี่เพียงที่เดียว ก็มีงานสถาปัตยกรรมหลายส่วนให้ชมแบบครบครันเลยทีเดียวค่า

 

เที่ยวเดรสเดน Dresden เยอรมัน

เมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี เมืองเก่าอายุ 810 ปี ตั้งอยู่บนแม่น้ำเอลเบอทางตอนใต้ของกรุงเบอร์ลินค่ะ ซึ่งแต่เดิมที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความสวยงามมาก แต่ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกทำลายลงบางส่วนจากการทิ้งระเบิดโดยฝ่ายพันธมิตร แต่ปัจจุบันก็ได้มีการบูรณะเมืองและซ่อมแซมสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่แล้ว นอกจากนั้นยังเป็นเมืองซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย มีระบบการขนส่งนักท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ จึงทำให้เดรสเดนคืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของเยอรมนีที่ไม่ควรมองข้าม

เที่ยวเขตเมืองเก่า (Rathaus)

เมืองเดรสเดนถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยส่วนที่เป็นเขตเมืองเก่า หรือที่เรียกว่า Altstadt นี้ถือเป็นเขตท่องเที่ยวที่น่าทึ่งและสวยงาม เพราะสถานทุกแห่งล้วนแต่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะมาแวะชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสมอๆ ก็ได้แก่โบสถ์ใหญ่โตสวยงามอย่าง Frauenkirche ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาจากซากปรักหักพัง รวมไปถึงกำแพงที่ชื่อ The Fürstenzug ซึ่งมีความยาวถึง 101 เมตร สูง 10.46 เมตร และเป็นกำแพงที่ได้รับการประดับประดาด้วยกระเบื้องที่ยาวที่สุดในโลก

นอกจากนั้นก็ยังมีที่เที่ยวที่อื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ ทั้งพิพิธภัณฑ์เอย อาคารเก่าแก่เอย โบสถ์สวยๆ เอย คิดว่าถ้าใครที่ชอบเรื่องของศิลปะและประวัติศาสตร์ ก็น่าจะชอบที่นี่แน่ๆ เลยค่ะ เพราะสามารถเดินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

เที่ยวปราสาทซวิงเกอร์ (Zwinger Palace)

หลังจากเที่ยวเขตเมืองเก่าเสร็จแล้ว คิวต่อไปต้องที่นี่เลยค่ะ ปราสาทซวิงเกอร์ ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าผู้ครองนครแห่งนี้ในอดีตที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอลเบอ โดยสร้างในสถาปัตยกรรมแบบบาโร้ก ที่มีอาคารหลักอยู่หนึ่งหลังที่ล้อมรอบไปด้วยซุ้มประตูจำนวนสามซุ้ม โดยที่แต่ละซุ้มจะมีทางเดิมลอยฟ้าเชื่อมต่อถึงกัน มีสวนลอยที่มีน้ำพุและต้นไม้ประดับประดาอย่างร่มรื่น นอกจากนั้นยังมีการสร้างห้องโถงไว้ประจำสวนทั้งสองด้านอีกด้วยค่ะ

 

เที่ยวแฟรงค์เฟิร์ต Frankfurt เยอรมัน

เที่ยวแฟรงค์เฟิร์ต เยอรมัน ที่เราคนไทยได้ยินเสียงบ๊อยบ่อย นั่นก็เพราะที่นี่เป็นศูนย์กลางการเดินทางระหว่างประเทศที่มีไฟลท์บินตรงจากเมืองไทยนั่นเองค่ะ นอกจากนั้นแฟรงค์เฟิร์ตยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วยนะคะ ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยวนั้น หากเทียบกับเมืองอื่นๆ ต้องยอมรับว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวค่ะ แต่กลับเป็นเมืองที่เราหรือนักท่องเที่ยวคนไหนๆ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน งงไหมคะ ก็แหม ถ้าเราไม่มาแฟรงค์เฟิร์ตแล้วเราจะไปเมืองอื่นได้ยังไงล่ะเนอะ เพราะยังไงเราก็ต้องมาลงเครื่องที่สนามบินที่นี่อยู่ดี โฮะๆๆ แต่กระซิบว่าใครที่เป็นผีเสื้อราตรีล่ะก็ แฟรงค์เฟิร์ตไนท์ไลฟ์เจ๋งจริงๆ ค่ะ

เที่ยวจตุรัสโรเมอร์ (Frankfurt Romer)

Romer เป็นชื่อของอาคาร 9 หลังของแฟรงก์เฟิร์ตซิตี้ฮอลล์ค่ะ โดยอาคารตรงกลางนั้นจะเชื่อมกับอาคารรอบๆ ที่ทั้งภายนอกและภายในจะตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคสมัยใหม่ ซึ่งอาคารเหล่านี้จะตั้งโดดเด่นเป็นสง่ากลางจัตุรัสที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่า รวมไปถึงร้านค้า และร้านอาหารมากมาย รวมทั้งด้านหน้ายังมีน้ำพุที่สวยงาม จึงไม่แปลกหากที่นี่จะกลายกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดในเมืองแฟรงกค์เฟิร์ต และเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดนี่บอกเลยว่าร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ นี่แทบไม่มีที่นั่งค่ะ

ที่สำคัญเห็นสวยๆ แบบนี้ รู้ไหมคะว่าตอนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถูกทำลายจนแทบไม่เหลือซาก แต่โชคยังดีที่มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งแฟรงค์เฟิร์ตในปัจจุบันนี่แหละค่ะ

 

 

เที่ยวสตุทท์การ์ท Stuttgart เยอรมัน

ที่นี่นอกจากจะเป็นดังศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของรัฐแล้ว ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญด้วยค่ะ ด้วยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวมากๆ คือบริเวณป่าดำ (Black Forest) นั่นเอง นอกจากนั้นใครที่ชอบในเรื่องของศิลปะ นวัตกรรมยานยนต์ไม่ควรพลาดที่นี่คะ เพราะมีพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่จัดแสดงผลงานทางศิลปะเยอะมาก รวมถึงพิพิธภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย น่าทึ่งมากค่ะเมืองนี้บอกเลย

เที่ยวจัตุรัสพระราชวัง (Schlossplatz Square)

ที่ Schlossplatz เป็นลานสนามหญ้า มีน้ำพุ ผู้คนออกมาปิคนิคกัน ชิลลลลมากเลยค่า เราก็เนียนๆ ส่องชาวบ้านไปค่ะ 555 หนุ่มหล่อเยอะเลย เพลินตา อิอิ

เที่ยวพิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดสเบนซ์ (The Mercedes-Benz Musuem)

The Mercedes-Benz Museum ตั้งอยู่บริเวณหน้าประตูโรงงานหลัก และสำนักงานใหญ่ของ Daimler AG แห่งเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมัน ซึ่งรถยนต์คันแรกของโลกถูกคิดค้นและผลิตขึ้นที่นี่โดย Karl Benz เมื่อปี ค.ศ. 1886 Mercedes-Benz ใช้เงินทุนสูงถึงกว่า 150 ล้านยูโร หรือกว่า 6 พันล้านบาท เพื่อสร้างอาคาร 9 ชั้น บนพื้นที่กว่า 16,500 ตร.ม. เพื่อจัดแสดงชิ้นงานกว่า 1,500 ชิ้น และรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์กว่า 160 คัน โดยออกแบบอย่างทันสมัยล้ำยุค

สถานที่นี้ ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่โชว์รถยนต์ แต่ถือว่าเป็นสถานที่บันทึกประวัติศาสตร์นวัตกรรมยานยนต์ของมนุษยชาติเลยค่ะ เป็นหนึ่งในแลนมาร์คสำคัญของเยอรมนีเลยจ้า แฟนพันธุ์แท้ห้ามพลาด

 

เที่ยวอูล์ม ULM เยอรมัน

เที่ยวเมืองอูล์ม เยอรมัน ทุกคนบนโลกนี้แทบจะไม่มีใครที่จะไม่รู้จักอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์นักฟิสิกส์ทฤษฎียอดอัจฉริยะของโลกผู้ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพอันลือลั่น แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเมืองอูล์มแห่งประเทศเยอรมีนี่แหละค่ะคือบ้านเกิดของเขา นี่คือเมืองท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเยอรมันที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งไม่ใช่เพราะไอน์สไตน์เท่านั้น แต่เนื่องจากความสวยงามและเก่าแก่ของเมืองต่างหากล่ะคะ เพราะนอกจากจะตั้งอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำดานูบที่อยู่ทางใต้ของประเทศแล้ว ที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 850 นั่นจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองของประเทศไปโดยปริยาย

เที่ยวเขตชุมชนชาวประมง (Fishermen’s Quarter)

เที่ยววิหารอูล์ม (Ulm Munster)

วิหารอูล์ม แหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเมือง ด้วยชื่อเสียงที่ลือกระฉ่อนไปสามย่านเจ็ดย่านว่าที่นี่นอกจากจะเก่าและแก่ ด้วยอายุที่มากกว่าคุณทวดของคุณทวดของเราแล้ว (ก็สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 นี่คะ) ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สูงสุดในโลก (ที่สร้างเสร็จแล้ว) ด้วยความสูงเพียงเบาะๆ แค่ 161.53 เมตรเอ๊งงง ซึ่งแม้จะตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง แต่เดินไปทางไหนก็เห็นตั้งสูงเด่นเป็นสง่าอย่างชัดเจน

เที่ยวอนุสรณ์สถานอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein Memorial)

อนุสรณ์สถานอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คืออนุสรณ์สถานขนาดเล็ก ที่สร้างขึ้นในแบบอนุสาวรีย์และลานน้ำพุ เพื่อเป็นเกียรติแก่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ทฤษฎีผู้ยิ่งใหญ่ชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองอูล์ม โดยอนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากวิหารอูล์มเมอร์ มืนสเตอร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพียง 750 เมตรเท่านั้น

โดยที่นี่ได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายถาวรเรื่องราวชีวิตของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งก่อนเสียชีวิตมาตั้งแต่ปี 1968 หลังจากที่เขาเสียชีวิตมาแล้ว 13 ปี ส่วนด้านหน้าอนุสรณ์สถานจะเป็นน้ำพุ ซึ่งเป็นประติมากรรมที่หล่อด้วยบรอนซ์ ที่สร้างขึ้นในปี 1984 โดยเป็นรูปหัวของไอน์สไตน์ที่มีสายตาเจ้าเล่ห์และแลบลิ้นออกมาด้วยความคึกคะนอง

 

เที่ยวเวิร์ซบวร์ก Wurzburg เยอรมัน

เวิร์ซบวร์ก หรือวูร์ซบวร์ก เยอรมัน เมืองบนเนินเขาแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนีค่ะ ด้วยลักษณะของเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารและบ้านเรือนในสไตล์บาโร้กนั่นเอง โดยตั้งอยู่ห่างจากแฟรงค์เฟิร์ตประมาณ 120 กิโลเมตรค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานด้วยนะคะ เป็นเมืองสวยคลาสสิก และมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ มีไร่ไวน์ทั่วเมืองในบริเวณเนินเขารอบๆ

เที่ยวป้อมมาเรียนแบร์ก (Marienberg Fortress)

จากตัวเมืองเวิร์ซบวร์ก เมื่อมองสูงขึ้นไปบนเนินเขา เราจะเห็นป้อมปราการใหญ่โตสูงทะมึนดูน่าเกรงขาม ป้อมปราการนี้มีชื่อว่าป้อมมาเรียนแบร์กค่ะ มันถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงก่อนคริสตกาลโดยชาวเคลท์ เพื่อใช้เป็นที่หลบภัย กระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 13 ก็ได้สร้างเพิ่มเติมบนพื้นที่เดิมของโบสถ์มาเรียนเคียเชอร์ โบสถ์แห่งแรกของเมืองที่สร้างขึ้น ตั้งแต่ที่เวิร์ซบวร์กอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันคาทอลิก เนื่องจากมีชัยภูมิที่ดีในการมองเห็นข้าศึกได้จากในระยะไกลๆ

นอกจากนั้นยังได้มีการปรับปรุงป้อมปราการให้เป็นปราสาทแบบเรเนซอส์ด้วยนะคะ ก่อนจะถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์บาโร้ก ภายในมีพิพิธภัณฑ์ให้ชมด้วยนะคะ โดยได้รวบรวมผลงานศิลปะของทิลมัน ไรน์เมนชไนเดอร์เอาไว้ รวมถึงยังมีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเวิร์ซบวร์กที่จัดแสดงแบบสามมิติด้วย แต่ส่วนที่เราชอบที่สุดก็คงจุดชมวิวริมแม่น้ำ เนื่องจากจะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำ สะพาน และตัวเมืองเก่าพร้อมๆ กันได้ชัดเจนมากๆ

เที่ยวอัลเทอไมน์บรึค (AlteMainbruecke)

อัลเทอไมน์บรึค หรือสะพานเก่าข้ามแม่น้ำไรน์ ตอนที่เห็นครั้งแรกนั้น จุดเด่นที่สุดก็คงเป็นรูปปั้นของนักบุญทั้งหลายที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างสะพานนั่นแหละค่ะ ซึ่งสะพานหินแห่งนี้ตามประวัติคือสร้างในปี 1473-1543 (อันนี้จำนวนปีที่สร้างก็ลองบวกลบคูณหารกันดูนะคะ) โดยเป้าหมายของการสร้างสะพานนี้ก็เพื่อทดแทนของเดิมที่สร้างในศิลปะแบบโรมาเนสก์นั่นเอง เราลองเดินนับรูปปั้นดูมีอยู่ทั้งหมด 12 ตัวค่ะ เขาบอกว่าจริงๆ แล้วรูปปั้นพวกนี้มันไม่ได้มีตั้งแต่ตอนสร้างสะพานนะ เพิ่งจะมาตกแต่งเพิ่มในปี 1730 นี่เอง

ทั้งนี้สะพานอัลเทอไมน์บรึคเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่า ป้อมมาเรียนแบร์ก และกรานทางเรือ ย่านชานเมืองอีกฝั่งของแม่น้ำไรน์ และความไม่ธรรมดาอีกอย่างของสะพานเหล็กนี้ก็คือตอม่อนั่นเองค่ะ คือด้านล่างเนี่ยเขาจะออกแบบไว้เพื่อป้องกันการรุกรานของศัตรูจากทางเรือได้ด้วย

เที่ยวเรสซิเดนส์ ออฟ เวิร์ซบวร์ก (Residence of Wurzburg)

เรสซิเดนส์ ออฟ เวิร์ซบวร์ก คือพระราชวังสไตล์บาโร้กที่มีชื่อเสียงแห่งนึงในยุโรปค่ะ ถ้าเข้าไปเยี่ยมชมด้านในตัวอาคาร ต้องซื้อตั๋วเข้าชม แต่ก็มีบางห้องบางส่วนที่เปิดให้เข้าชมฟรี ภายในปราสาทเขาประดับตกแต่งด้วยศิลปะแบบบาโรกและโรโคโค อันหรูเลิศอลังการ

อีกทั้งยังมีภาพเขียนสีเฟรสโก้ประดับบนฝาผนัง และเพดานห้องโถงอันงดงามวิจิตร โดยเฉพาะบันไดห้องโถงของปราสาทอันโด่งดัง ที่ปลอดภัยจากการระเบิดของฝ่ายพันธมิตร Residence Palace สวยงามมีคุณค่าเข้าตา จนยูเนสโก จดทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 ส่วนด้านนอกมีสวนโฮฟการ์เทิน มีรูปปั้นและแปลงดอกไม้สวยๆ ให้ชม

เที่ยวนูเรมเบิร์ก Nuremberg เยอรมัน

คิดว่าใครที่ได้มาเยือนนูเรมเบิร์ก อีกหนึ่งเมืองจากแคว้นบาวาเรียที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของแคว้น ก็คงอดที่จะตกหลุมรักเมืองนี้มิได้ แน่นอนว่าเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันค่ะ เพราะครั้งแรกที่ย่างเท้าเข้ามาในเมืองแห่งนี้ ก็รู้สึกราวกับได้ก้าวเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยายยังไงยังงั้น กับความสวยงามน่าตื่นตะลึงของขุนเขา พระราชวัง บ้านเรือนสไตล์โรมัน ทางเดินแบบยุคกลาง โบสถ์โบราณแสนสวย

เที่ยววิหารเซนต์ ลอเรนซ์ (St. Lorenz kirche)

วิหารเซนต์ ลอเรนซ์ที่ตัวโบสถ์แต่ดั้งเดิมเนี่ยถูกทำลายไปตั้งแต่ช่วงสครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว แต่ที่เห็นปัจจุบันนี้คือเวอร์ชั่นบูรณะขึ้นมาใหม่ค่ะ การเข้าไปชมภายในโบสถ์ไม่เสียค่าเข้าชมนะ เมื่อเข้าไปแล้ว เราก็จะเห็นการตกแต่งในลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบยุคกลางที่ให้ความขลังและความสง่างาม

พอออกมาจากโบสถ์แล้ว ข้างโบสถ์มีน้ำพุแห่งความดีงาม (Tugendbrunnen) บนสุดประดับด้วยรูปปั้นเทพีแห่งความยุติธรรม มือซ้ายถือตาชั่ง มือขวาถือดาบ ปิดตา เหมือนที่เราเห็นบ่อยๆ ตามจตุรัสต่างๆ ในยุโรป แต่ที่เพิ่มเติมคือ ที่ฐานน้ำพุด้านล่าง มีรูปปั้นเทพีอีก 7 องค์ ที่มีน้ำพุพ่นออกมาจากหน้าอก

เที่ยวตลาดคริสท์คินเดิล (Hauptmarkt)

เดินไปตาม Koning Strasse เรื่อยๆ ผ่านมิวเซียม ผ่านรูปปั้น จากนั้นก็จะเจอแยกแล้วเลี้ยวขวาก็จะพบกับ Hauptmarkt อยู่เบื้องหน้าแล้วล่ะค่ะ ซึ่งที่นี่ถือเป็นตลาดอีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงในระดับโลกเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาสที่นี่จะเต็มไปด้วยข้าวของเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสวางขายมากมาย ดูละลานตาไปหมด แต่แม้ว่าเราจะไม่ได้มาช่วงเทศกาล ก็ไม่ได้หมายความว่าที่นี่จะไม่มีอะไรให้เที่ยวนะคะ เพราะนอกจากจะมีสินค้าทางการเกษตรอย่าง ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะดอกไม้ชนิดต่างๆ มาวางขายให้เราได้ใช้เวลาเดินแบบชิลล์ๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์สำคัญอีกแห่งของเมืองอย่าง Frauenkirche

เที่ยวโบสถ์เฟราเอน (Frauenkirche)

โบสถ์ Frauenkirche หรือโบสถ์แม่พระ เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึงสิบปี ที่นี่มีจุดเด่นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกันมากก็คือ บริเวณยอดแหลมของโบสถ์ที่เป็นหอนาฬิกานั่นเองค่ะ โดยความพิเศษของมันก็คือ เมื่อเวลาเที่ยงตรงปุ๊บ เหล่าตุ๊กตาก็จะออกมาเต้นระบำให้เราชม นอกจากนั้นก็ยังมีหุ่นจักรพรรดิ และบริวารมาเล่นดนตรีขับกล่อมอยู่ข้างๆ อีกด้วย 

 

เที่ยวพอทสดัม Postdam เยอรมัน

พอทสดัม เมืองหลวงของรัฐบรันเดนบูร์กที่ตั้งอยู่บนบนแม่น้ำฮาเฟิล ทางด้านตะวันออกของประเทศเยอรมนี และอยู่ห่างจากกรุงเบอร์ลินไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 26 กิโลเมตร ซึ่งความโดดเด่นของพอทสดัมทางด้านการท่องเที่ยวก็คือ ภูมิทัศน์ที่สวยงามด้วยเป็นเมืองที่ประกอบไปด้วยทะสาบที่เชื่อมต่อๆ กัน นอกจากนั้นที่นี่ยังมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้เมืองใหญ่ๆ ในเยอรมนีเลย รวมถึงยังมีพื้นที่มรดกโลกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่างพระราชวังซ็องซูซีที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของเมืองอีกด้วยค่ะ

เที่ยวพระราชวังซองซูซี (Sanssouci Palace)

พระราชวังซองซูซี (ไกลกังวล) ตั้งอยู่ในบริเวณสวนซองซูซี โดยถูกออกแบบก่อสร้างและตกแต่งในสไตล์ศิลปะแบบรอคโคโคที่หรูหราอลังการบนยอดเนิน และมีสวนขั้นบันไดที่ปลูกต้นองุ่นเป็นทิวแถวอยู่ด้านหน้า เพื่อให้เป็นที่ประทับพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนของพระเจ้าฟรีดริชที่ 2

โดยปัจจุบันที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของเมืองพอทสดัมที่ใครๆ ก็ต้องมา แต่ก็ใช่ว่าพระราชวังแห่งนี้จะเปิดให้ชมทุกช่วงฤดูกาลนะคะ เพราะจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะเดือนเมษายนถึงตุลาคมในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น โดยต้องเสียค่าเข้าชมในราคา 12 ยูโร แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเงิน แค่เดินเที่ยวในบริเวณสวนของพระราชวัง อันนี้ไม่เสียเงินค่ะ ซึ่งสวนของที่นี่ขอบอกว่าสวยมาก มีน้ำพุสวยๆ หลายแห่งเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นน้ำพุที่สำคัญที่สุดจะมีชื่อว่า Gro e Fontane อันนี้คือพลาดไม่ได้เลยล่ะ



ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงงานเรื่อง บังลอยไข่หวาน

ครีมเทียม

เทศกาลวันคริสมาสต์🌲⛄